ลอนดอน ประท้วง ยกระดับ ปะทะตำรวจ ที่ทำเนียบรบ.

บ่ายวันนี้ (เสาร์ที่ 6 มิถุนายน) ที่ลอนดอน มีประชาชนออกเดินประท้วงเรื่องการเสียชีวิตของ นายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวอัฟริกัน อเมริกัน สาเหตุจากการจับกุมของตำรวจ เมือง เมนีอาโปลิส รัฐมินิสโซวตา สหรัฐอเมริกา

ผู้ประท้วงจำนวนกว่า 15,000 คน จากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ เข้ามารวมตัวกันที่ Westminster ใกล้รัฐสภา และหอนาฬิกา Big Ben

ผู้คนส่วนใหญ่ ต่างชูป้าย “Black Lives Matter” เพื่อเรียกร้องความยุตธรรมให้กับผู้ตาย และให้เห็นถึงความสำคัญต่อการเหยียดสีผิวและชนชาติ

แต่ดูเหมือนการประท้วง ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเย็น โดยผู้ประท้วงเดินเท้าเข้ามายังบริเวณ White Hall ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานกระทรวงต่างๆ รวมทั้ง หมายเลข 10 Downing Street หรือทำเนียบรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจม้า ควบคุมสถานการณ์

และเมื่อเวลาประมาณ 18:00 น. ได้เกิดมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจม้า เนื่องจากมีการโยนขวดและวัตถุต่างๆ ใส่ตำรวจ และมีขวดน้ำมันเพลิง ถูกจุดและโยนเข้าไปในบริเวณประท้วง

ตำรวจจึงได้เข้าสลายการประท้วง และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากตกจากหลังม้าขณะปฏิบัติหน้าที่เพราะมีผู้ประท้วงโยนจักรยานใส่ม้า

นางปรีติ พาเทล รัฐมนตรีกระทรวงมหาไทย อังกฤษ กล่าวว่า การใช้ความรุนแรงในการประท้วง เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ จะต้องสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแก้ปัญหาการประท้วงที่ไม่เป็นระเบียบและไม่อยู่ในความสงบนี้อย่างเต็มที่

ซาดิค ข่าน นายกเทศมนตรี กรุงลอนดอน กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ประท้วงอย่างสงบในวันนี้ รวมทั้งเขา ต้องการแบ่งปันความโกรธและความเจ็บปวดของทุกคน การฆาตกรรม จอร์จ ฟลอยด์ จำเป็นจะต้องเร่ง ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั่วโลก

แต่สำหรับผู้ที่เป็นส่วนน้อยในการใช้ความรุนแรง ขว้างปาขวด แก้ว และวัสดุที่ก่อให้เกิดเปลวไฟนั้น ถือว่าเป็นการสร้างอันตรายต่อผู้ประท้วงอย่างสงบ และกลายเป็นสาเหตุที่ลดทอนความสำคัญนี้ลงไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นห่วงในสถานการ์โควิด-19 ก็ยังเตือนให้ผู้ประท้วงสวมใส่หน้ากาก พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือด้วย เนื่องจากยังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องปกป้องตนเอง และครอบครัว จากเชื้อโรคร้ายนี้

นอกจากในกรุงลอนดอน แล้ว ยังมีการประท้วงในอังกฤษ เช่น แมนเชสเตอร์, นิวคาสเซิล, สวอนซี, เลสเตอร์, เชฟฟิลด์ และเมืองคาร์ดิฟฟ์ ในเวลส์ ด้วย

ข่าว : METRO