
เกินขีดจำกัด ควันพิษจากรถยนต์ ภัยใกล้ตัว
มลพิษทางอากาศในกรุงลอนดอน มาแตะถึงขีดจำกัด ตามกฎหมายในปี 2018 แล้ว เริ่มมีการกระตุ้นเตือนให้รัฐบาลหาทางควบคุม จับ ปรับ และลงโทษรถยนต์ที่ “เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชน”
นับตั้งแต่ปี 2010 ปริมาณอากาศเป็นพิษ แตะอยู่ในระดับที่เกินกว่าจะปลอดภัย ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ มีผู้เสียชีวิตจากการเกี่ยวข้องเรื่องอากาศเป็นพิษนี้ ถึง 40,000 ราย อยู่ในระดับที่น่ากลัวและต้องหาทางรับมือกับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
Brixton Road ในเขต Lambeth เมือง London เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า มีตัวเลขดีขึ้นมาก จากเมื่อปีที่แล้ว ที่มีมลพิษเกินตัวเลขมาตรฐานเป็นเวลาถึง 6 วันในรอบปี
ทั้งนี้ เชื่อว่าเป็นผลมาจากการดำเนินการของนายกเทศมนตรี ลอนดอน (Mayor of London) Sadiq Khan ซึ่งนำรถประจำทางปลอดมลพิษ มาวิ่งในเส้นทางที่มีมลภาวะสูงในใจกลางลอนดอน และเพิ่มการเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ที่ใช้รถยนต์ดีเซลในรุ่นเก่า เป็นการลดปริมารรถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ
“ลอนดอนยังคงหายใจอากาศที่สกปรกในชีวิตประจำวัน” Simon Alcock แห่ง ClientEarth หน่วยงานกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ กล่าวว่า”มีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำ แต่นายกเทศมนตรีแก้ปัญหาคนเดียวไม่ได้… คณะรัฐมนตรีต้องรับมือและแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังปกป้องสุขภาพของประชาชนอย่างจริงจัง”
การแก้ไขมลพิษในลอนดอน เริ่มดำเนินการอย่างต่อเนื่องเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ซาดิค ข่าน เคยกล่าวว่านี่เป็นปกป้องกรุงลอนดอน ที่กำลังเดินเข้าสู่เขตมลภาวะทางอากาศเกินมาตรฐาน “มาตรการที่เราดำเนินการไว้ในลอนดอน กำลังเริ่มมีผล ผมจะใช้อำนาจทั้งหมดที่มีอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติสุขภาพนี้ ถึงเวลาที่รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่แท้จริงของปัญหานี้แล้ว “
กฎหมายกำหนดให้การวัดชั่วโมงของไนโตรเจนไดออกไซด์ที่เป็นพิษ (NO2) ต้องไม่เกิน 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (μg / m3) Brixton Road ได้ถูกบันทึกว่าเกินแล้วถึง 18 ครั้งในปีที่ 2017
ถนนมลพิษในลอนดอน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถานที่ปนเปื้อนที่มีมลพิษมากที่สุดได้มีมากขึ้น ปี 2016 Putney High Street ได้ทำลายสถิติเกินขีดจำกัด รายชั่วโมงเกินกว่า 1,200 ครั้ง แผน Clean Bus รถบัสปลอดมลพิษของ นายข่าน จึงได้เข้าไปใช้ในเส้นทาง Brixton และ Putney
มลพิษก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ที่ปล่อยจากรถยนต์ดีเซล มีปริมาณสูงเกินค่ามาตรฐาน นับตั้งแต่ปี 2010 ทั้งฝุ่นละออง และอากาศ ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า คนในเมืองหลวง ได้หายใจเอามลพิษในระดับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกแล้ว
ในถนน Oxford Street ซึ่งทะลุขีดจำกัดแล้วเช่นกัน แต่แค่ 5 วันในปี 2015 ยังได้รับการแก้ไขด้วยการเปลี่ยนแปลงเส้นทางเดินรถประจำทาง จนที่ผ่านมาไม่เกินขีดจำกัดแล้ว แต่ก็ยังมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ว่าผลการแก้ไขเป็นด้วยดีหรือไม่
ทนายความของ ClientEarth กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การประเมินของรัฐบาลได้แสดงให้เห็นว่า “มีผลกระทบอย่างสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนมาเป็นเวลาหลายปี” ด้วยมลพิษที่แม้ว่าจะไม่ถึงขีดจำกัดตามกฎหมาย
Ultra-Low Emission Zone
มาตรการเก็บเงินกับรถยนต์ที่ขับเข้ามาในเขตปลอดมลพิษ ยังถือว่าเป็นนโยบายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดปริมาณรถยนต์ในใจกลางเมืองหลวงได้
ข่าน กำลังเปิดตัวเขต Ultra-Low Emission หรือเขตมลพิษต่ำพิเศษ ในลอนดอนปี 2019 และวางแผนที่จะ จำกัด การใช้เตาเผาไม้ปลอดมลพิษสำหรับการทำลายเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนั้นรัฐฯ ยังเร่งในการจัดทำโครงการทำลายรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษสูงออกจากถนนอีกด้วย
กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้รายงานต่อรัฐสภาให้ทราบว่า “กระทรวงฯ กำลังดำเนินการปรับปรุงคุณภาพอากาศอย่างต่อเนื่องโดยได้รับการสนับสนุนจากแผนกลยุทธ์ด้านอากาศสะอาดแบบใหม่ ที่กำลังพัฒนาและจะเผยแพร่ต่อไป ปลายปีนี้ พร้อมเตรียมแผน 3.5 พันล้านปอนด์เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยเน้นการขนส่งเป็นพิเศษ
เรื่อง/ภาพ : The Guardian
Hits: 249