11/12/2023

สาวเกาหลี เหยื่อเหยียดชาติ เดินเที่ยว London ถูกรุมตื้บกลาง Oxford Street ทวงถาม “การกำจัดขยะสังคม” อังกฤษ


“ฉันหวังว่าตำรวจจะมาถึงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะหยุดความรุนแรงต่อผู้คนได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งหยุดได้มากเท่านนั้น รวมทั้ง ฉันหวังว่าผู้ที่ทำร้ายคน จะได้รับการลงโทษที่สาสม เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนี้ได้สักครั้ง พวกเขาก็จะทำอีก ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเช่นฉัน”



London | Em Vanakatekul


Yeon Jeong Lee นักศึกษาชาวเกาหลี เหยื่อวัยรุ่นเหยียดเชื้อชาติ (Racism) ศึกษาอยู่ที่เมือง Canterbury เข้ามาเที่ยว London พร้อมเพื่อนอีก 1 คน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2018 ที่่ผ่านมา และได้เดินเที่ยวบริเวณถนน Oxford แต่ถูกกลุ่มวัยรุ่นไม่ทราบจำนวน ซึ่งมีทั้งคนผิวดำและผิวขาว กลั่นแกล้ง โดยการขว้างปาสิ่งของ ไปที่ศีรษะของเธอหลายครั้ง

และเมื่อเธอเริ่มตอบโต้บ้าง กลับโดนรุมทำร้าย โดยมีเพียงผู้อยู่ในเหตุการณ์ 2 คนเท่านั้น ที่เข้าห้ามปรามและช่วยเหลือ

เธอพยายามติดต่อตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ภายหลังผู้รุมทำร้ายจากไป แต่รอเป็นชั่วโมง ก็ไม่มีเจ้าหน้าตำรวจมา เธอจึงติดต่อสอบถามไปยังสถานทูตเกาหลีเพื่อขอคำปรึกษา แต่ได้รับคำตอบว่า สถานทูต ไม่อาจก้าวล่วงการทำงานของเจ้าหน้าที่อังกฤษได้

เธอเริ่มหมดหวังยิ่งขึ้น เมื่อสอบถามถึงคลิปในกล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งอาจจะช่วยเหลือในการสืบสวนได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องได้รับคำสั่งศาล เพื่อนำไปยื่นขอต่อร้านค้าต่างๆ ได้ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน

เธอกลับมาโพสต์ขอความเป็นธรรม ผ่าน Facebook เริ่มต้นคำร้องต่อ นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ซาดิค ข่าน ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงกับสำนักงานตำรวจนครบาล (Metropolitan Police) ผ่านทางเว็บไซต์ Change.org โดยมีข้อความดังนี้

“ฉันคือนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่เรียนที่ University of Creative Arts (UCA), Canterbury ฉันถูกทำร้ายร่างกายและทำร้ายร่างกายโดยกลุ่มคนแปลกหน้าขาวและดำที่ผสมผสานเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนใน Oxford Street London

ฉันอยู่กับเพื่อนของฉันที่เดินลงถนน Oxford ประมาณ 17:50 น. ในวันอาทิตย์ที่ 11 (พ.ย.) และจู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าใครบางคนขว้างขยะ มาที่ศีรษะของฉันจากด้านหลัง

ครั้งแรกที่ฉันไม่สนใจกลุ่มที่กำลังตามฉันมา แต่พวกเขายังคงขว้างปาสิ่งจากด้านหลังของฉัน ฉันหันกลับไปและบอกให้หยุด จากนั้นสาวผิวดำคนนี้ก็เดินเข้ามาหาฉันว่า “โอ้เธอพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเหรอ? เป็นอะไรมั้ย?” จากนั้นก็โยนของทิ้งจากมือเธอใส่ศีรษะของฉัน

ฉันโกรธและฉันก็โยนของเธอกลับบางส่วนของขยะที่ฉันถือ สิ่งที่จำได้ต่อ ก็คือเธอพุ่งเข้ามาที่ฉัน แล้วตะคอกว่า “แกกล้าตีฉันเหรอ” พร้อมกับผลักฉันล้มลงที่พื้น แล้วพวกมันประมาณ 10 คน ก็มาที่ฉันแล้วก็เริ่มตบตี

ฉันพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ผลักฉันลงไปที่พื้นอีก แล้วก็ต่อยฉันที่หน้า คนอื่นก็รุมกันเตะฉัน พวกนั้นเป็นวัยรุ่น แต่รูปร่างสูงใหญ่กว่าฉัน (ฉันสูง 155 เซนติเมตร) แต่พวกเขาทั้งหมด น่าจะสูงประมาณ 180 ซม.

ผู้ชาย 1 ในนั้นน่าจะสูงประมาณ 180 ซม. เหวี่ยงฉันลงกับพื้น แล้วต่อยฉันที่ใบหน้ากับศีรษะ

ฉันจำได้ว่า ฉันตะโกนออกไปว่า “นี่มันศตวรรษที่ 20 แล้ว เลิกเหยียดเชื้อชาติกันได้แล้ว” และฉันก็กรีดร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งฉันทำได้เพียงเท่านั้น

ขณะที่กำลังโดนกลุ่มคนจำนวน 10 คน ฉันอยู่กับเพื่อนของฉันก็ตกใจกลัว ทำอะไรไม่ถูกและไม่สามารถจะช่วยอะไรได้

มี 2 คนที่เห็นเหตุการณ์ พยายามจะหยุดพวกเขา พวกคนกลุ่มนั้นจึงแกล้งผละจากไป เพียงครู่เดียวก็กลับมา แล้วเข้าทำร้ายฉันอีก

ผู้หญิงคนดำเริ่มต่อยฉัน ถึงขนาดที่ถอดเสื้อแจ๊กเก็ตและต่อยฉันที่หน้าและศีรษะ

ความทรงจำสุดท้ายที่เลือนลางตอนนั้น ก็คือ ชายผิวขาวสูงประมาณ 180 ซม. ชกฉันที่ศีรษะอย่างแรง ทำให้ฉันเกือบหมดสติ”

“นี่คือเย็นวันอาทิตย์ บนถนน Oxford Street ในพื้นที่ใจกลางกรุงลอนดอน คนมากมายที่เดินผ่านไป มีเพียงสองคนเท่านั้นที่พยายามจะช่วยฉัน และส่วนที่เหลือยืนถ่ายคลิป พวกกลุ่มที่ทำร้ายฉันใช้เวลา 6-7 นาที แล้วพวกเขาก็วิ่งหนีไปทางร้าน Mcdonalds

ฉันบอกคนที่ช่วยฉัน ให้โทรหาตำรวจให้ด้วย ฉันแจ้งความผ่านทางโทรศัพท์ แต่ตำรวจไม่ได้ทำอะไรเลยเป็นชั่วโมง

ฉันกับเพื่อน และคนที่ช่วยฉัน โทรศัพท์ไปหาตำรวจอีกถึงสี่ครั้ง

เจ้าหน้าที่ๆ รับโทรศัพท์ ก็ยังให้คำตอบเหมือนเดิมว่า กำลังคำนวนเวลาที่จะไปถึงที่เกิดเหตุ แล้วเราจะโทร.กลับไปหา แต่ก็ไม่เคยโทร.มาเลย

ฉันตกใจ ฉันตื่นหวาดกลัว ความรู้สึกนี้ไม่อาจอธิบายได้ ท้ายที่สุดแล้วฉันก็กลับมาที่ Canterbury ในคืนนั้น ฉันได้ยื่นแจ้งความออนไลน์อีกครั้ง หลังจากกลับถึงที่พัก และนึกถึงกล้องวงจรปิด ที่อยู่หน้า M & S และ Uniqlo จากฝั่งตรงข้าม

คืนนั้นตำรวจได้ส่งอีเมลแจ้งให้ฉันไปหานักบำบัดเท่านั้น เหลือเชื่อว่าพวกเขาไม่แยแสที่จะช่วยเหลือ/เหลียวมองกรณีนี้

มันเป็นการก่ออาชญากรรมการเหยียดชนชาติ/ความเกลียดชัง ที่ชัดเจน และไม่มีผู้ใดช่วยเหลือคุณ

ท้ายที่สุดฉันได้โทรหาสถานทูตเกาหลี แล้วอธิบายว่ามีอะไรเกิดขึ้น และถามว่าพวกเขาช่วยไล่ตามผู้กระทำความผิดได้หรือไม่ แต่พวกเขาบอกว่าการก้าวล่วง “กิจการพลเรือน” เป็นเรื่องที่ไม่สามารถกระทำได้ คงทำได้เพียงพึ่งพาการช่วยเหลือของตำรวจ

นอกจากนั้น ยังบอกด้วยว่า การขอคลิปที่บันทึก CCTV จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลและจะใช้เวลาเป็นเดือน

สรุปแล้ว ทั้งตำรวจและสถานทูตเกาหลี ไม่ได้ทำอะไรมากนัก ทั้งไม่ไล่ตามหาผู้กระทำผิด รวมทั้งไม่ได้ช่วยให้ฉันเบาใจขึ้น ทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์

วันต่อมาเมื่อมา ศีรษะ คาง ใบหน้าฉัน เริ่มบวมปูด ทำให้นึกถึงตอนที่โดนรุมทำร้าย/ตกใจ ฉันถึงกับอาเจียนอยู่ 2-3 วัน แล้วรู้สึกว่าไม่ไหว จึงเรียกรถพยาบาลฉุกเฉิน เพื่อไปพลหมอที่ A&E (Accident & Emergency unit)

วิธีแก้ปัญหา


“ฉันหวังว่าตำรวจจะมาถึงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะหยุดความรุนแรงต่อผู้คนได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งหยุดได้มากเท่านนั้น รวมทั้ง ฉันหวังว่าผู้ที่ทำร้ายคน จะได้รับการลงโทษที่สาสม เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนี้ได้สักครั้ง พวกเขาก็จะทำอีก ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อเช่นฉัน”

หลังจากนั้น Yeon Jeong Lee ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ Koreajoongangdaily ว่า “มีความแตกต่างมากมายของชนชาติที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร แต่บางคนได้ถูกทำร้ายด้วยความรุนแรง เหตุเพราะสีผิว”

เธอบอกว่า “ชาวต่างชาติที่เรียนและทำงานอยู่ในสหราชอาณาจักร ถ้าพวกเขาเปลี่ยนไปยังประเทศที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถึงวันนั้นจะไม่มีอังกฤษอยู่อีกต่อไป”

 

อย่าพลาดเรื่องนี้ >  ลอนดอน ประท้วง ยกระดับ ปะทะตำรวจ ที่ทำเนียบรบ.

ขณะนี้สื่อเกาหลี ได้ตีข่าวเตือนไปยังประชาชนของตนเอง โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในสหราชอาณาจักร ว่าให้ระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีคดีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกทำร้ายร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

โฆษกของสถานทูตเกาหลีใต้ กล่าวว่า “เราไม่ได้ตั้งใจเตือนปลุกระดม หรือหยุดยั้งชาวเกาหลีไม่ให้มาเที่ยวหรือมาพักอาศัยใน UK แต่เราเพียงต้องการกระตุ้นประชาชนของเรา ให้ระมัดระวัง และป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง ที่กำลังเผชิญหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ”

อาชญากรรมที่เกิดจากการเหยียดชนชาติ เกลียดชัง เชื่อว่าส่งผลรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้มีการทำประชามติ ของอังกฤษ เพื่อออกจากสหภาพยุโรป (European Union) นั่นเอง

ประเด็นที่น่าทวงถามอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การทำงานของตำรวจที่หละหลวม หย่อนยาน อันเกิดจากการตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายของตำรวจ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน รวมทั้งการเข้ามาป้องกันเหตุอาชญากรร และความเร็วในการตอบสนองการแจ้งความ นับวันยิ่งแย่ลง จำนวนคดีเพิ่มขึน

จึงเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับสังคมชาวอังกฤษ และสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน


ร่วมกันเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้เธอ ได้สร้างสำนึกและความตระหนักให้เกิดขึ้นกับผู้คนในสหราชอาณาจักร ได้ที่นี่ครับ


ขอขอบคุณ : Gen online (สำหรับข้อมูล Primary source

หากท่านเห็นว่าข่าวและบทความมีประโยชน์ กรุณาสนับสนุน ด้วยการกด Like + Share, เพื่อให้เว็บไซต์เติบโตมีรายได้ กรุณากดลิ้งค์ Sponsor ที่ท่านเห็นว่ามีประโยชน์น่าสนใจให้ด้วยนะครับ 


ติดตามข่าวสาร กดเพิ่มเราเป็นเพื่อน

Add friend

[efb_likebox fanpage_url=”TrendingtalkUK” fb_appid=”217654438803512″ box_width=”900″ box_height=”300″ locale=”en_GB” responsive=”1″ show_faces=”1″ show_stream=”0″ hide_cover=”0″ small_header=”0″ hide_cta=”0″ animate_effect=”bounceInDown” ]

Hits: 646