ครอบครัวเป็นทุกข์ มาร์เคิลหมั้นเจ้าชายแฮร์รี่

แม่พร้อมเปิดใจออก TV รายการ โอปราห์ วินฟรีย์

แม่ ‘เมแกน มาร์เคิล’ พร้อมเปิดใจสัมภาษณ์รายการทีวี โอปราห์ วินฟรีย์ เผยความทุกข์ใจที่ครอบครัวได้รับ โดนเหยียดหยามเรื่องเชื้อชาติอย่างหนัก นับตั้งแต่มาร์เคิลหมั้นกับเจ้าชายแฮร์รี่ ขณะที่การให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้จะทำได้หรือไม่ ต้องรอ ‘ไฟเขียว’ จากวังอังกฤษก่อน
เมื่อ 6 พ.ค. 61 เว็บไซต์มิร์เรอร์รายงาน นางโดเรีย แร็กแลนด์ หญิงอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ผู้เป็นมารดาของ นางสาวเมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้นในเจ้าชายแฮร์รี่ แห่งราชวงศ์อังกฤษ พร้อมแล้วที่จะบอกให้โลกได้รู้ถึงเรื่องทุกข์ใจที่ครอบครัวได้รับจากการถูกเหยีดหยาม จงเกลียดจงชังด้านเชื้อชาติอย่างหนัก นับตั้งแต่เเจ้าชายแฮร์รี่ได้ทรงหมั้นหมายกับนางสาวมาร์เคิล และเตรียมจะเข้าพิธีเสกสมรสในวันที่ 19 พ.ค.ที่จะถึง
โดยคาดว่านางแร็กแลนด์จะเปิดเผยเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์รายการทีวีของโอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรชื่อดังในรายการทีวีทอล์กโชว์ของสหรัฐฯ ซึ่งนางแร็กแลนด์ไม่เคยให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ใดมาก่อน
ข่าวแจ้งว่า นางแร็กแลนด์ ได้พบกับ โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ฟาร์มของพิธีกรคนดังในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทั้งสองได้พูดคุยกันนานถึง 6 ชั่วโมง จนคิดว่าควรออกรายการให้สัมภาษณ์ทางทีวี หากได้ ‘ไฟเขียว’ จากสำนักพระราชวังบังกิงแฮม ของอังกฤษ รวมทั้งเจ้าชายแฮร์รี่ และมาร์เคิล

มิร์เรอร์ เผยว่า ข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ก่อนถึงวันเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ พระชนม์มายุ 33 ปี กับนางสาวมาร์เคิล วัย 36 ปี ที่โบสถ์เซนต์ จอร์จ ในปราสาทวินด์เซอร์ ขณะที่ นายโทมัส มาร์เคิล บิดาของมาร์เคิล อายุ 73 ปี และนางแร็กแลนด์ อายุ 61 ปี เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน จะเดินทางมาจากสหรัฐ ใน 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่กับมาร์เคิล

ก่อนหน้านี้ นางสาวมาร์เคิล ได้เคยพูดถึงความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกรังเกียจด้านผิวสี และเมื่อพฤศจิกายน ปีก่อน มาร์เคิลเคยกล่วว่า “หมดกำลังใจที่ถูกมองในแง่ลบ เกี่ยวกับเชื้อชาติสีผิวในช่วงแรกๆ หลังคบหากับเจ้าชายแฮรี่”
จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังมีจดหมายลึกลับถูกส่งมาถึงเจ้าชายแฮรี่และมาร์เคิล ที่วังในลอนดอน ข้างในมีห่อบรรจุผงแป้งสีขาว ซึ่งทางตำรวจนครบาลลอนดอน ชี้่าเป็นเหตุจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติ และขณะนี้ ทีมตำรวจปราบปรามการก่อการร้าย กำลังดำนเนิการสืบสวนอยู่
ขอขอบคุณ : ไทยรัฐออนไลน์ สนับสนุนเนื้อหาข่าวและภาพ
Hits: 172